เธอบรรลุจุดหมาย จากรุ่นไลท์เวท หรือ 60 โล ในปี 2018 ก่อนจะคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันชิงชัยชิงแชมป์โลกในปีเดียวกัน

เธอบรรลุจุดหมาย โชคร้ายที่สุดาพรไม่สามารถที่จะไปถึงการบรรลุจุดประสงค์ใหญ่ เป็นการคว้าเหรียญทองจุดมุ่งหมายไว้ทั้งสองรายการ ซึ่งตัวคุณเองเห็นด้วยว่า ถึงคนไม่ใช่น้อยจะมีความคิดว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดของเธอ แต่สำหรับตัวเอง นี่เป็นปีที่น่าผิดหวังที่สุด เพราะจังหวะที่อยู่ตรงหน้า เธอกลับทำไม่เสร็จ

อย่างไรก็แล้วแต่ ด้วยคำช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ทำให้เธอกลับมาสู้อีกครั้ง ด้วยเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นเป็นตอนนี้คุณจะไม่หยุดที่ระดับทวีปเอเชีย แต่ต้องประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก โอลิมปิก เกมส์ 2020 ก็เลยเป็นเป้าหมายสำคัญของ สุดาพรสีสอนดีที่ต้องฝ่าด่านไปร่วมการแข่งขันชิงชัยรายการนี้ให้ได้

เนื่องจากว่าลูกผู้หญิงพรมิได้จะเข้าร่วมโอลิมปิกก็แค่เพื่อเก็บประสบการณ์ เนื่องจากมันไม่มีจังหวะคราวใดที่จะสมบูรณ์แบบเทียวไปเทียวมากกว่านี้อีกแล้ว สำหรับสุดาพรสีสอนดี”กว่าจะได้ไปเมืองโตเกียว” ไม่ได้ง่าย คุณต้องผ่านปัญหามากมาย อยู่ในจุดที่อยากยอมกับความฝันบ่อยมาก อย่างเต็มสง่า

หากถึงแม้ว่าทุกหนเธอตกลงปลงใจลุกขึ้นยืนมาสู้ต่อ และได้รับผลตอบแทนที่คุ้มกับทุกหยดเหงื่อที่ลงทุนไป โอลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้ เราอาจจะไม่ทราบได้ว่า สุดาพรนักต่อยจากจังหวัดอุดรธานีจะบรรลุผลสำเร็จแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าไว้วางใจเป็นเธอจะทุ่มเทหมดกระเป๋าเพื่อหวังคว้าเหรียญรางวัลกลับมาอย่างแน่นอน

ตอนนี้ สุดาพรสีสอนดีลงชิงชัยในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยเป็นข้างเอาชนะไปได้แบบไม่เป็นเอกฉันท์ 3-2 ผ่านไปสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจะไปพบกับ เคลลี่ แฮร์ริงตัน หมัดสาวจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ที่นักต่อยสาวไทยเคยแพ้มาในศึกชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2018 แบบเฉียดฉิว 2-3

เธอบรรลุจุดหมาย

เธอบรรลุจุดหมาย ชีวิตนักต่อยล้มลุกสู่ความฝันล่าเหรียญรางวัลแรกให้วงการมวยสมัครเล่นหญิงไทย

เธอบรรลุจุดหมาย ครั้งใดก็ตามการแข่งขันชิงชัย โอลิมปิก เกมส์ มาถึง กีฬามวยสากลสมัครเล่นเป็นความหวังเหรียญรางวัลจากคนไทยทุกทีไป เสร็จหรือล้มเหลวเกิดเหตุที่ผลที่ได้รับจากการแข่งขันจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ ถึงบางครั้งจะประสบความล้มเหลว

หากแม้ 4 ปีต่อมา คนไทยยังคงหมายมั่นเหรียญจากนักต่อยดินแดนเมืองไทยดังที่เคยไม่เคยเปลี่ยน โอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มวยสากลยังคงเป็นกีฬาที่แฟนชาวไทยคอยให้การติดตามเพื่อลุ้นเหรียญรางวัลกลับมา

ซึ่งโอกาสนี้ไม่ได้มีแค่นักมวยชายเพียงอย่างเดียว หากแม้และนักต่อยเพศหญิงที่ได้ช่องจะคว้าเหรียญกลับมาสร้างความสบายให้กับคนไทยเช่นกัน ซีรีส์ “กว่าจะได้ไปเมืองโตเกียว” มวยไทย

โอกาสนี้ บอกเล่าเรื่องราวของ สุดาพรสีสอนดีนักต่อยหญิงคนประเทศไทยที่เป็นความหวังของการคว้าเหรียญครั้งแรกจากมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกให้กับวงการมวยหญิง ด้วยประสบการณ์นักสู้ที่เธอต้องต่อสู้มาตลอดชาติ 29 ปีที่ผ่านมา

สุดาพรสีสอนดีเกิดช่วงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2534 ที่อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ครอบครัวของคุณเปิดค่ายซ้อมมวยไทยเพื่อฝึกสอนเยาวชนที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ กีฬาหมัดก็เลยอยู่ใกล้ตัวหญิงคนนี้มาตลอด ตามประสาเด็กธรรมดา

สุดาพรเล่นซุกซนผ่านการต่อยกระสอบทราย ฝึกฝนมวยตามเด็กในหมู่บ้าน ถึงแม้ว่าคุณไม่เคยมีความต้องการที่ต้องการจะเป็นนักมวยตั้งใจจริง ตราบจนกระทั่งวันหนึ่งตอนอายุได้ 11 ปี มีมวยเด็กผู้หญิงเดินทางมาต่อยใกล้บ้าน แต่ไม่สามารถหาคู่ต่อยได้

คุณบิดาของลูกสาวพร จึงเชิญให้คุณไปทดสอบขึ้นไปหาประสบการณ์ในฐานะนักสู้บนสังเวียนหนแรก ซึ่งคุณตกลงปลงใจตอบตกลง ไม่ใช่ว่าคุณต้องการจะเป็นนักมวย แม้กระนั้นคุณปรารถนาช่วยครอบครัวหาเงิน

เธอบรรลุจุดหมาย

สุดาพรต้องพบกับ บทเรียนแรงของการเป็นนักมวย

เธอบรรลุจุดหมาย นั่นเป็นความเจ็บจากการต่อยในแต่ละครั้ง ถึงเธอจะได้รับชัยชนะมาบ้าง แต่ด้านหลังต่อยไปเพียงแต่ไม่กี่ไฟต์ เธอก็ยอมยกธงขาวต้องการจะวางมือ ด้วยเหตุว่าความเจ็บปวดจากหมัด หากแม้พ่อของเธอไม่ขัดหากแม้บุตรหญิงที่รักจะเลิกเล่น

แม้กระนั้นด้วยฐานะซึ่งไม่สู้ดีของทางบ้าน ทำให้คุณตกลงปลงใจ ทดสอบนำวิชามวย ที่มีสอบเข้าห้องเรียน ต่อในสถานที่เรียนกีฬา จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นไปเปิดช่อง ในอนาคตแล้วหลัง จากนั้นก็แบ่งเบา ภาระครอบครัว ในตอนแรกคุณตกลง ปลงใจจะเรียน ในศาสตร์ของมวยไทย

หากแต่คุณเลือก เปลี่ยนทิศทาง มายังมวยสากลสมัคร เล่นจากข้อเสนอ ของคุณครูที่กล่าวมาว่า นักมวยฝึกหัดสามารถ มีทางไปได้ไกล กว่ามวยไทย ถึงจะใช้เวลาหลายปี ในการทำความเข้าใจ การชกมวยสากล แต่คุณสามารถต่อสู้ ปากทางเข้าไปติดกรุ๊ปชาติ ตั้งแต่อายุแค่เพียง 16 ปี

หากแม้ คุณจำเป็นที่จะต้องใช้เวลา 2 ปีแรกไปกับการซ้อม และไม่สบโอกาสได้ต่อย รายการใดเลย ด้วยอายุที่น้อย ยังอ่อนประสบการณ์ รวมถึงมีรุ่นพี่ที่เก่งกว่าคุณขวางกั้นอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ส่งเสริมบุตรสาวพร มาตลอดเป็น ความมุ่งหมายที่จะหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ถึงแม้ว่าเมื่อคุณไม่ได้ต่อย ก็ไม่มีเงินเข้ามา สุดาพรแทบจะตกลงปลงใจที่จะเลิกชกมวยอาชีพ กลับไปต่อยมวยไทยเพื่อเลี้ยงครอบครัว ข่าวมวย วันนี้

แต่ความมานะบากบั่น ของคุณมาผลิดอกออกผล ด้วยการมีชื่อติดกรุ๊ปชาติไทย ฝ่ากีฬาซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคุณคว้าเหรียญทอง มาถือครองได้ทันทีทันใด ภายในช่วงระยะ เวลาอันสั้น สุดาพรสีสอนดีกลายเป็น ชื่อนักมวยหญิงระดับ แถวหน้าของภูมิภาค เอเซียอาคเนย์

แต่การจะก้าวผ่าน ขึ้นไปสู่ระดับทวีป เป็นงานที่ยากกว่า เนื่องด้วยถึง แม้ว่าคุณจะได้เหรียญ จากกีฬาซีเกมส์ มามากมาย การบรรลุวัตถุประสงค์ จากระดับทวีปเอเชีย หรือระดับประเทศ ยังไม่มีที่จับควรต้องได้ ตราบจนกระทั่ง เกิดเป็นคำที่ว่า “มวยหญิงไทยแพ้บ่อย เกินไปกว่าจะ ฝากความมุ่งมาดได้”

จนกระทั่งการมาของ ฮวน ฟอนตาเนียล ยอดคนฝึกมีชื่อ ชาวประเทศคิวบา ผู้ปลุกปั้นมวยสากลสมัครเล่น ไทยในยุคทอง ได้กลับมาปั้น วงการมวยหญิงไทย แล้วหลังจากนั้น ก็สำเร็จเสร็จอย่างรวดเร็ว สุดาพรสีสอนดี แปลงเป็นนักต่อย ระดับทวีปเอเชีย ภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน