ลงนวมชกมวย ล้างตาได้แน่! “เสมาเพชร” มองทะลุเกม “ฤทธิ์เทวดา” มาไม้ไหนก็เอาอยู่

ลงนวมชกมวย หลังจาก เสมาเพชร เป็นฝ่ายถูกจับแพ้แตกในการเผชิญหน้าครั้งแรกกับ ฤทธิ์เทวดา เมื่อเดือนพ.ย. 64 เขาก็พร้อมเต็มร้อยที่จะกลับมาสางแค้นให้รู้ดำรู้แดง โดยเตรียมแผนจัดหนักจัดเต็มเพื่อกำจัดเสี้ยนหนามสุดท้ายให้พ้นทาง

ก่อนขึ้นรีแมตช์ชิงแชมป์โลกกับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” อย่างที่ตั้งใจ ครั้งนี้ เสมาเพชร เผยว่าตนศึกษาคู่แข่งมาอย่างละเอียด และเตรียมวางแผนแก้เกมอย่างรอบด้าน และเชื่อว่าตนสามารถรับมือกับนักมวยยอดฝีมือรุ่นน้องได้สบาย ทั้งยังเตรียมทีเด็ดไว้เซอร์ไพรส์บนเวทีด้วย

“จากที่เจอกันคราวที่แล้ว ผมก็ศึกษาน้องเขามาค่อนข้างละเอียดเลยครับ ผมพอมองออกว่าเขาชกสไตล์ไหนและวิธีแก้เกมของเขาเป็นอย่างไร และผมก็มองว่าครั้งนี้ เขาก็น่าจะมาไม้เดิมคือ เดินใส่แน่นอน ผมก็ต้องรัดกุมและระวังศอกให้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมาครับ”

“ส่วนจุดอ่อนเขาก็ยังมีอยู่เยอะพอสมควรนะครับ เท่าที่ดู ผมว่าการออกอาวุธของเขายังช้าอยู่ ซึ่งผมมั่นใจว่าผมเร็วกว่าแน่นอน ผมก็จะใช้ความได้เปรียบตรงนี้ครับ อีกอย่าง ทุกคนจะได้เห็นอาวุธเด็ดที่ผมเตรียมไป แต่จะเป็นอะไร ต้องไปดูบนเวทีครับ” ต้องการต่อสู้

โดยครั้งนี้ถือการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่ง เสมาเพชร จะแพ้ไม่ได้ เพราะจะทำให้เขาจะเสียตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิงวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ให้ ฤทธิ์เทวดา ทันที และเท่ากับว่าโอกาสรีแมตช์ชิงแชมป์โลกที่เขาเฝ้ารอมาหลายปีจะต้องหลุดลอยไปเช่นกัน

แลกเปลี่ยนวิชา!”เลียม แฮร์ริสัน” โผล่ซ้อมคู่ “ซุปเปอร์เล็ก” ล้วงเคล็ดลับไปคว่ำ “น้องโอ๋” เป็นที่รู้กันในแวดวงคนใกล้ชิดของ”เลียม แฮร์ริสัน” ว่า ทุกครั้งที่เขามีโปรแกรมชกใน วัน เขาจะเดินทางมาเข้าค่ายฝึกซ้อมที่เมืองไทย เพื่อลับอาวุธและทบทวนเทคนิคมวยไทยให้เข้าฝัก โดยจะตระเวนไปลงนวมซ้อมกับนักมวยไทยยอดฝีมือตามค่ายมวยชื่อดังต่างๆ

และเมื่อเร็วๆนี้ เราก็ได้เห็นภาพของเลียม แฮร์ริสันลงนวมชกมวยกับ ซุปเปอร์เล็ก ยอดมวยจอมเตะชาวไทยอย่างสนุกสนาน โดย ซุปเปอร์เล็ก เองนั้นก็มีคิวชกในรายการเดียวกันกับเลียม เช่นกัน

ก่อนหน้านี้เลียม เคยเอ่ยปากว่า ซุปเปอร์เล็ก เป็นนักมวยไทยที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่งและยกให้เป็นตัวเต็งศึกมวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เขาจึงเลือกที่จะมาฝึกซ้อมเพื่อแบ่งปันเทคนิคมวยไทยต่างๆด้วยกัน โดยยอดมวยชาวไทยเล่าบรรยากาศการซ้อมให้ฟังว่า

“ผมรู้สึกดีมากครับที่ได้ซ้อมกับนักมวยต่างชาติที่ถือว่าอยู่ระดับแถวหน้าของยุโรป ซึ่งเป็นผลดีกับตัวผมเองที่ได้เห็นเขาซ้อม และได้ศึกษาวิธีการซ้อมและเทคนิคของเขาด้วยครับ ส่วนใหญ่ เราสองคนจะซ้อมตามสไตล์ของตัวเอง ก็จะมีเล่นเชิงกัน ปล้ำกัน เสริมความแข็งแรงครับ”

หลังจากได้ลองประมือกับผู้ท้าชิงคนล่าสุดของ น้องโอ๋ พอหอมปากหอมคอ ลงนวมชกมวย ซุปเปอร์เล็ก ก็มองว่าไฟต์ชิงแชมป์โลกวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ระหว่างทั้งคู่จะต้องออกมาน่าตื่นเต้นแน่นอน

“ผมบอกไม่ได้เหมือนกันว่าใครจะชนะ แต่สนุกแน่นอน เท่าที่เห็นเลียม เขามีการต่อยหมัด เตะขา ที่น่ากลัวครับ แต่สำหรับ พี่โอ๋ (น้องโอ๋) เป็นนักชกที่ใครก็โค่นยากครับ เขาเป็นมวยฝีมือ ที่มีอาวุธคม แข้งหนัก ทั้งซ้ายทั้งขวา มีหมัดมีศอก ครบเครื่อง มีประสบการณ์สูงเลียม คงจะไม่สามารถทัน พี่โอ๋ ได้ง่ายๆครับ” https://www.webbiscuits.net

ลงนวมชกมวย

อดีต ปัจจุบัน อนาคต ผ่านมุม “พูนเพชร เพชรใหม่” สื่อมวยผู้เห็นการเปลี่ยนแปลงทุกยุคของราชดำเนิน

ตลอดระยะเวลา 77 ปี เวทีราชดำเนิน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายเกิดขึ้น ทั้งยุคบุกเบิก ช่วงเวลารุ่งโรจน์ อันเป็นยุคทองของกีฬามวยเมืองไทย รวมถึงผ่านจุดวิกฤตที่ต้องใช้เวลากอบกู้อยู่หลายปี

ปัจจุบัน “ราชดำเนิน” เปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง ไม่ใ่ช่แค่เพียงการเพิ่มแสง สี เสียง เท่านั้น แต่ยังเซ็ตมาตรฐานการจัดแข่งขันใหม่ เริ่มต้นกันที่ ศึกราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ที่ต้องการให้ “มวยไทย” กลับมาเป็นมหรสพที่ดึงดูดผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และชาวต่างชาติให้ถนนทุกสายมุ่งสู่ราชดำเนินอีกครั้ง

พูนเพชร เพชรใหม่ อดีตบรรณาธิการนิตยสารมวยตู้ คือชายคนหนึ่งผู้เห็นความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคของสนามมวยเวทีราชดำเนิน เขาจะมาถ่ายทอดเรื่องราวทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเวทีมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย ที่พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ในฐานะ “ศูนย์กลางมวยไทยโลก”

เปลี่ยนแปลงสู่กีฬาสากล “มวยไทยสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ใช่กีฬาเหมือนในปัจจุบัน มวยสมัยนั้นจัดการแข่งขันเป็นมหรสพในโอกาสสำคัญ ๆ หรือเป็นงานประจำปี”

“นักมวยที่ทำการแข่งขันเป็นผู้ฝึกฝนวิชาการต่อสู้ ขึ้นเวทีชกกันแบบคาดเชือก เพิ่งจะมาสวมนวมชกในช่วงหลัง แต่ละเวทีกำหนดวิธีการชกเอาเอง ยังไม่เป็นระเบียบแบบแผนเหมือนปัจจุบัน”

“สนามมวยที่จัดประจำในยุคนั้นก็มี เวทีสวนกุหลาบ เวทีหลักเมืองท่าช้าง เวทีสวนสนุก เวทีสวนเจ้าเชตุ และเวทีพัฒนากร แต่ละที่จัดมวยได้ไม่นานก็ทยอยเลิกลาไป ยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกเวทีปิดตัวลงอย่างถาวร”

“กระทั่งปี พ.ศ. 2484 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิมในตอนนั้น) ต้องการส่งเสริมกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ จึงใช้พื้นที่บริเวณริมถนนราชดำเนินนอกเป็นสถานที่ก่อสร้างสนามมวยแห่งชาติ ตามการตั้งชื่อในตอนนั้น แต่มาเกิดสงครามโลกซะก่อน จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2488”

“สนามมวยแห่งชาติเปิดการแข่งขันนัดแรก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม แต่คนส่วนใหญ่นิยมเรียก เวทีราชดำเนิน จนติดปาก จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ สนามมวยเวทีราชดำเนิน จนถึงปัจจุบัน”

“เวทีราชดำเนิน จึงถือเป็นสนามมวยมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย เพราะมีการกำหนดระบบระเบียบและกฎกติกาโดย อาจารย์เจือ จักษุรักษ์ นำเอากติกามวยสากลที่จัดชกในต่างประเทศมาปรับใช้”

“ทำให้มวยไทยได้ชกภายใต้กติกาเดียวกันเป็นครั้งแรก มีการกำหนดจำนวนยก (5 ยก) เวลาชก และเวลาพักชัดเจน รวมทั้งกำหนดรุ่นตามน้ำหนัก เนื่องจากมวยไทยเป็นกีฬายอดฮิตในสมัยนั้น”

“การเกิดขึ้นมาของเวทีราชดำเนินยังทำให้ สื่อกีฬา เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย หนังสือพิมพ์ในยุคนั้นต้องแบ่งเซกชันกีฬาเพื่อนำเสนอข่าวมวยไทยเป็นเรื่องเป็นราว และยังทำให้เกิด หนังสือกีฬา เป็นนิตยสารมวยฉบับแรกของเมืองไทยอีกด้วย”

เปลี่ยนแปลงสู่สนามมวยมาตรฐาน “การจัดมวยของเวทีราชดำเนินในยุคนั้นได้รับความนิยมมาก นั่นอาจจะเป็นเพราะเป็นกีฬาที่มีการจัดการแข่งขันเป็นประจำ เวทีราชดำเนินจึงได้ชื่อว่า สร้างซูเปอร์สตาร์มวยไทยขึ้นมาเป็นเวทีแรก

ไม่ว่าจะเป็น สุข ปราสาทหินพิมาย, ชูชัย พระขรรค์ชัย, สมพงษ์ เวชสิทธิ์, ถวัลย์ วงศ์เทเวศร์, สุรชัย ลูกสุรินทร์, สมเดช ยนตรกิจ, ดาวทอง สิงหพัลลภ และ ประยุทธ์ อุดมศักดิ์”

“เวทีราชดำเนินในระยะแรกเป็นเวทีกลางแจ้งไม่มีหลังคา จึงเรียกกันว่า ชามอ่างยักษ์ นอกจากจะร้อนในเวลาแดดส่องแล้ว เวลาฝนตกยังเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ถึงขนาดต้องยกเลิกการแข่งขันกลางคันอยู่บ่อย ๆ” ข่าวมวย วันนี้

ลงนวมชกมวย

แฟนแห่รับเพียบ! “โคตะ มิอุระ” นักชกสุดหล่อคู่ชก “บัวขาว” เดินทางถึงประเทศไทย

ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับ “คิงจูเนียร์” โคตะ มิอุระ นักชกดาวรุ่งสุดหล่อชาวญี่ปุ่น ลูกชายแท้ๆ ของ “คิงคาซู” คาซูโยชิ มิอุระ ตำนานกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นที่มีโปรแกรมจะต้องขึ้นชกกับ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย

โดยล่าสุด นักชกชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปี ได้เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางการต้อนรับของบรรดาแฟนคลับที่ไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้

สำหรับกำหนดการชกทั้งคู่จะเจอกันในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (อาร์ดับบิวเอส) ในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ แฟนๆ สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 เวลา 21.15 น. เป็นต้นไป