ทำไมนักกีฬาต่อสู้ มวยก็เป็นเพียงแค่กีฬา แต่ว่านี่เป็นการต่อสู้ของแท้

ทำไมนักกีฬาต่อสู้ รวมทั้งมีผู้คนตายจริงๆมีคนบอกผมว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผม ผมเองก็คิดอย่างงั้น แปลงเป็นข่าวเร่งด่วนไปทั่วทั้งโลกจากตอนมีนาคมก่อนหน้านี้

ภายหลังนักกีฬาต่อสู้มากมายความสามารถผู้คนจำนวนมากชาวยูเครนเลือกทิ้งชีวิตที่มั่งคั่งรวมทั้งเป็นสุข เพื่อไปจับปืนร่วมเป็นทหารรบกับรัสเซียที่ละเมิดรานประเทศของพวกเขา

ท่ามกลางความสงสัยของคนทั่วทั้งโลก แม้กระนั้นชาวยูเครนกลับดูสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องธรรดา ในฐานะชาติที่สะดุดตาหัวข้อการปั้นนักสู้บนสังเวียนกีฬา แต่พวกเขาทำให้เห็นว่า สามารถเป็นไปได้มากยิ่งกว่านั้น เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่แค่นักสู้ในเกมกีฬา แต่ว่าเป็นทหารที่พร้อมจะคุ้มครองป้องกันประเทศ

ทำไมนักกีฬาต่อสู้

Main Stand จะพานักอ่านไปรู้เรื่องเรื่องจริงของประเทศยูเครน ผ่านการก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวของประวัติศาสตร์แล้วก็วัฒนธรรม กระทั่งสามารถสร้างอีกทั้งนักสู้ที่สุดยอดบนสังเวียนและก็นักสู้ที่อาจหาญในการทำศึก มวยไทย

ถ้าเกิดจะเข้าดวงใจธรรมชาติคนยูเครน แนวทางที่ง่ายที่สุดเป็นการย้อนมองดูไปที่ประวัติศาสตร์ของชาตินี้ ด้วยเหตุว่าประวัติศาสตร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทำให้พวกเรารู้เรื่องตอนนี้ถึงรากฐานทางวัฒนธรรมที่ฝังลึกจนถึงเปลี่ยนเป็นค่าความนิยม

สำหรับชาวยูเครนก็ด้วยเหมือนกัน เลือดนักสู้ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวพวกเขาแล้วก็ความไม่กลัวต่อการรบไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

ถ้าพวกเราย้อนมองดูถึงประวัติศาสตร์จะพบว่า การรบเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชาวยูเครนมาตลอด ประวัติศาสตร์สงครามของยูเครนเริ่มในตอนศตวรรษที่ 14 ภายหลังถูกครอบครองโดยชาวมองโกลในรัชสมัยของเจงกีสข่านที่บุกเข้ามายึดแผ่นดินยูเครน (กรุงเคียฟ)

เป็นเมืองประเทศราช ทำให้กองทัพชาวลิทิวเนียจากภาคเหนือแถบแหลมบอลข่านจะต้องยกพลมายึดดินแดนคืนจากชาวมองโกล แล้วก็เริ่มสร้างดินแดนขึ้นมาใหม่นับจากนั้น

ทำไมนักกีฬาต่อสู้

แต่ว่าชาวลิทิวเนียไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลจริงบนแผ่นดินยูเครน เนื่องจากเมื่อไปสู่ศตวรรษที่ 15 ผู้ที่มีอำนาจจริงในดินแดนนี้เป็นฝูงคนที่เรียกว่า “คอสแซคส์” https://www.fudoshinkan.org

ชาวคอสแซคส์ เป็นคำเรียกของกลุ่มคนชาวสลาฟตะวันออก ที่เป็นทหารระหกระเหินไม่มีหลักแหล่งที่มีอาชีพรับจ้างดูแลดินแดนต่างๆที่อยู่ในสภาพการณ์ปราศจากความมั่นคงจากภัยต่างๆชาวคอสแซคส์จะยึดแผ่นดินพวกนี้แล้วก็ดูแลให้อยู่ในความสงบโดยไม่ให้ต้องเจอปัญหาการรุกรานจากต่างประเทศ

กล่าวกล้วยๆเป็น ตั้งแต่ต้นเริ่ม ยูเครนถูกดูแลด้วยทหาร ซึ่งเป็นระบบการปกครองที่ต่างกันมากในช่วงนั้นที่ดูเหมือนจะทุกดินแดนถูกดูแลโดยกษัตริย์ ผ่านระบอบแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

เหตุผลที่ยูเครนจะต้องถูกดูแลด้วยทหารเป็นด้วยเหตุว่าแผ่นดินของพวกเขาแปลงเป็นรัฐกันชนระหว่างความแตกต่างของยุโรปตะวันตกและก็ยุโรปตะวันออก

ย้อนไปในศตวรรษที่ 14 การบุกยึดแผ่นดินยูเครนของชาวลิทิวเนียเป็นเรื่องสำคัญคราวหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ยุโรป เพราะเหตุว่าชาวลิทิวเนียนำอารยธรรมจากยุโรปตะวันตกมาปลูกฝังในแผ่นดินยูเครนที่อยู่ฝั่งทิศตะวันออก รวมทั้งประกาศเป็นผู้ส่งเสริมกับชาติฝั่งตะวันตก แปลงร่างขั้นสุดยอด

ในขณะเดียวกัน ชาวรัสเซียป้ายประกาศตั้งตนยิ่งใหญ่ในกรุงมอสโกมิได้เลือกเป็นมิตรกับประเทศตะวันตกแบบยูเครน แม้กระนั้นหันไปประสานมือกับแผ่นดินจีนมองโกลที่เรืองอำนาจอย่างเต็มที่ทางทิศตะวันออกในขณะเดียวกัน

นอกเหนือจากนั้น อิทธิพลของทั้งคู่ดินแดนยังแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ยูเครนนำหลักปรัชญากรีกโบราณมาผสมกับหลักศาสนาคริสต์เพื่อใช้ในลัษณะของการดูแลดินแดนตามอิทธิพลของยุโรปตะวันตก ในช่วงเวลาที่รัสเซียได้รับอิทธิพลการปกครองแบบเผด็จการที่ครัดเคร่งมาจากชาวมองโกล

ด้วยการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมที่ผิดแผกแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเป็นครั้งแรกในพรมแดนยุโรปตะวันออกระหว่างฝั่งของยูเครนรวมทั้งรัสเซีย ทำให้นับจากศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา รัสเซียก็เลยต้องการจะยึดแผ่นดินยูเครนมาเป็นของตนเองให้ได้

เนื่องจากต้องการให้ยุโรปตะวันออกกลับมามั่นคงรุ่งเรืองรวมทั้งมีวัฒนธรรมเดียวกันอีกทีราวกับตัวอย่างเช่นในสมัยก่อน

ในช่วงเวลาที่ชาติยุโรปตะวันตกก็ปรารถนาใช้ยูเครนเป็นรัฐกันชนคุ้มครองป้องกันรัสเซียที่เรืองอำนาจขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทำให้แผ่นดินยูเครนถูกบีบคั้นจากทั้งคู่ฝั่งจนกระทั่งอยู่ในสภาพการณ์พะอืดพะอม ซึ่งจริงๆแล้วยังมีชาวเติร์กจากดินแดนประเทศตุรกีในตอนนี้ที่ต้องการจะเคลื่อนทัพบุกขึ้นเหนือมายึดแผ่นดินยูเครนด้วยเช่นเดียวกัน

โดยเหตุนี้ ดินแดนยูเครนก็เลยควรต้องหนักแน่น ถ้าหากไม่ได้อยากอยู่ภายใต้การรุกรานจากดินแดนอื่นอย่างไม่มีทางสิ้นสุด ชาวคอสแซคส์ก็เลยเข้ามาเป็นผู้ดูแลแผ่นดินที่นี้ รวมทั้งเป็นกลุ่มคนเหล่านี้ที่ระบุวัฒนธรรม, จารีต ไปจนกระทั่งจิตวิญญาณที่ฝังลึกอยู่ในตัวของชาวยูเครนในขณะนี้

ในสมัยที่สังคมยังมิได้เป็นประชาธิปไตย ผู้มีอิทธิพลย่อมจับสิทธิ์สำหรับเพื่อการระบุแนวทางความเป็นไปของสังคม เหมือนกันกับยูเครนในสมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งชาวคอสแซคส์ที่เป็นทหารรับจ้างก็ปลูกฝังความเป็นนักสู้ที่กล้าหาญชาญชัยที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อคุ้มครองป้องกันภูมิลำเนาตลอดระยะเวลาให้กับคนท้องถิ่น

มีการศึกษาเรียนรู้ว่าในตอนศตวรรษที่ 11 ถึง 14 ก่อนที่จะแผ่นดินยูเครนจะเริ่มกำเนิดปัญหาภัยการรบ คนท้องถิ่นตรงนี้เป็นคนเฉยๆรังเกียจมีปัญหากับคนใด รวมทั้งมีนิสัยสุภาพ, อารี รวมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

อันเป็นผลมาจากยุคทองด้านการค้าในขณะนั้นที่ทำให้กรุงเคียฟมีความรวย ด้วยเหตุว่าสามารถค้าขายไปได้ในหลายดินแดนสุดดินแดนเหนือจนกระทั่งประเทศสวีเดนแล้วก็ไปสุดดินแดนใต้ที่ประเทศตุรกี

แต่ว่าเมื่อสภาพสังคมแปรไป จากสมัยที่การค้าขายไปสู่สมัยที่การสู้รบ ผู้คนก็เลยไม่อาจจะดำเนินชีวิตอย่างสุขสบายได้เสมือนในสมัยก่อน

จากบุคลิกลักษณะที่เรียบง่ายโอบอ้อมอารี ชาวยูเครนที่ถูกดูแลโดยกรุ๊ปทหารก็เลยถูกผลิตบุคลิกลักษณะใหม่ให้แปลงเป็นคนกล้าหาญ เป็นนักล่าที่พร้อมต่อสู้แบบไม่หวั่นหวาดอันตราย รวมทั้งที่สำคัญที่สุดเป็น เป็นการกำเนิดของจิตวิญญาณการรู้สึกรักถิ่นกำเนิด

ยิ่งเวลาผ่านไป ยูเครนยิ่งพบแม้กระนั้นปัญหาภัยการสู้รบ ด้วยเหตุว่าเมื่อไปสู่ศตวรรษที่ 16 ยูเครนก็แตกหักกับผู้สนับสนุนจากตะวันตกอย่างประเทศโปแลนด์

ก็เลยเปลี่ยนเป็นว่าแผ่นดินนี้จำเป็นต้องรับศึกจากทุกด้าน และก็ถ้าเกิดพวกเขาไม่มีทหารที่เข้มแข็งจริง ยูเครนคงจะไม่อาจจะยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางชาติมหาอำนาจอีกทั้ง โปแลนด์, รัสเซีย, สวีเดน แล้วก็ จักรวรรดิออตโตมัน หรือ ตุรกี

“จิตวิญญาณของการเป็นชาวคอสแซคส์เป็น การเป็นนักสู้ เพียงแต่อย่างเดียวเพียงแค่นั้น พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้ตลอดระยะเวลาเพื่อป้องกันดินแดนของตน” BBC สื่อโด่งดังให้คำจำกัดความเกี่ยวกับชาวคอสแซคส์แบบง่ายที่สุด

หากแม้ชาวคอสแซคส์จะเป็นสายเลือดนักสู้ แต่ว่าพวกเขาไม่ใช่คนโหดเหี้ยม ตรงกันข้าม ชาวคอสแซคส์ขึ้นชื่อลือชาประเด็นการไม่ข่มขี่ผู้อยู่ใต้การปกครอง รวมทั้งการยอมรับฟังเสียงของสามัญชน กระทั่งพูดได้ว่า แผ่นดินยูเครนมีพื้นฐานของสังคมแบบประชาธิปไตยมาอย่างนาน

นอกเหนือจากนี้ ชาวคอสแซคส์ยัง รักในอิสระและไม่ถูกใจอยู่ใต้อำนาจของคนใดกันแน่ ด้วยเหตุนี้ ตลอดร่วม 3 ศตวรรษที่ชาวคอสแซคส์มีผลกระทบเหนือแผ่นดินยูเครน

พวกเขาก็เลยไม่ได้ปลูกฝังเพียงแค่จิตวิญญาณของการเป็นนักสู้ให้กับคนท้องถิ่น แต่ว่ารวมถึงจิตวิญญาณเสรีสุดที่รักในเสรีภาพ รวมทั้งการมีอำนาจสูงสุดด้วยตัวของตนเอง โดยไม่ยินยอมให้ผู้ใดกันแน่หน้าไหนมาบงการชีวิต

ซึ่งพวกเราอาจมิได้เห็นจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ของชาวยูเครนมากมายแบบในตอนนี้ถ้าว่าท้ายที่สุดชาวคอสแซคส์ไม่แพ้การสู้รบให้กับรัสเซียในศตวรรษที่ 18 และก็ถูกครอบครองดินแดนจนถึงหมดไป จนกระทั่งแปลงเป็นจุดกำเนิดของการศึกชิงแผ่นดินที่นี้ระหว่างชาวรัสเซียกับชาวยูเครนมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

“ชาวยูเครนอยากได้ดูแลตนเองเสมอ แล้วก็พวกเขาสวามิภักดิ์ต่อ ‘ยูเครน’ ในฐานะชาติบ้านเกิดเพียงแต่อันเดียวเพียงแค่นั้นไม่ใช่รัสเซีย” แฟรงค์ ซีสิน นักประวัติศาสตร์ด้านประเทศยูเครนกล่าว

“จิตวิญญาณของชาวคอสแซคส์ยังคงอยู่ในฐานะแก่นของการเมืองและก็สังคมของยูเครน ซึ่งนำไปสู่การผลิตความเป็นเมืองชาติของยูเครนยุคสมัยใหม่ ข้างหลังการล่มสลายของรัสเซีย”

เชื้อสายของความเป็นนักสู้ของชาวยูเครนไม่เคยหายไปไหน มันอยู่ในตัวพวกเขามาตลอด แม้กระทั้งในสังคมยุคสมัยใหม่ก็มีพื้นที่ของเกมกีฬาซึ่งเป็นสถานที่ให้คนยูเครนได้นำความสามารถของการเป็นทหารมาดัดแปลง แล้วก็แปลงเป็นนักสู้ผู้มีอิทธิพลไปทั้งโลก

“ภายหลังจากตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 กีฬาชกมวยสากล ได้รับการสนับสนุน อย่างยิ่งในยูเครน มวยแปลงเป็นกีฬา ที่ทำให้เกิดอาการชาวยูเครน สามารถหนีออก มาจากสภาพการณ์การสู้รบ ความยุ่งยากต่างๆทำให้มวยเป็นที่นิยมมากมายในยูเครน” ดิมา โม้โรเบียฟ สมัยก่อนผู้บริหารระดับสูงของข้างสร้างโฆษณาชวนเชื่อในสมัยของรัสเซียเผยข้อมูล

“กีฬาชกมวยถูกใช้สำหรับในการแสดงอำนาจโดยรัสเซีย ในเวลาที่ชาวยูเครนก็มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นจากกีฬานี้ด้วยเหมือนกัน มีโรงยิมมวยกระจัดกระจายอยู่ทั้งประเทศ ซึ่งมันมอบอนาคตใหม่ให้กับคนนับล้าน แก็งค์อาชญากรรม คนจน หรือแม้กระทั้งคนติดสุรา

ต่างเจอชีวิตใหม่ จากการเป็นนักมวย มันเป็นการผลิต ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ที่ยูเครน นักมวยมิได้เป็นเพียง แค่สหายร่วมอาชีพ แต่ว่าทุกคน เป็นญาติพี่ น้องที่แน่นแฟ้น ราวกับเชื้อสายเดียวกัน”

กล่าวได้ว่า ที่ยูเครน มวยมิได้เป็น เพียงแค่กีฬา แต่ว่าเป็นวัฒนธรรม ที่ตั้งหลักปักฐานลึก ราวมวยไทยในกรณี ของเมืองไทย ที่อยู่ในเชื้อสาย ของพวกเขาแบบ ไม่ทันรู้ตัว และไม่มีทางที่จะตัดขาดจากกันได้

ยิ่งบวกกับ สมัยของรัสเซีย ที่ส่งเสริมการพัฒนา ด้านกีฬาอย่าง เต็มเปี่ยม ทำให้นักมวยชาวยูเครนมีต้นทุน ที่ดีพร้อม อีกทั้งจากตัว พวกเขาเองแล้ว ก็ส่วนประกอบรอบตัว

การเกิดของยูเครน ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้กระนั้นเป็น ภาพเดิมที่ เคยเกิดขึ้นใน ตอนต้นศตวรรษที่ 20 ของสหรัฐฯ กับสถานการณ์ จากภาวะเศรษฐกิจ ตกต่ำที่ทำชายหนุ่ม เยอะมากๆว่างงานและก็เจอ ความยากแค้นในชีวิต แล้วก็มวยสากล ก็เปลี่ยนเป็น ช่องทางใน การสร้างชีวิตของตนขึ้นมาใหม่