ซุปเปอร์สตาร์ ไม่ใช่เฉพาะมวยเด็กเพียงแค่นั้นที่ทำให้โรคสมองเสื่อม หรืออันตรายถึงกับตาย 

ซุปเปอร์สตาร์ ไม่ใช่เฉพาะมวยเด็กเพียงแค่นั้นที่ทำให้โรคสมองเสื่อม หรืออันตรายถึงกับตาย เนื่องจากก่อนหน้าที่ผ่านมาจากผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจพบว่า ยังมีนักมวยรุ่นใหญ่ระดับแชม์ป อีกทั้งในไทยและก็ ต่างถิ่น พบเจอโชคชะตาเดียวกัน “กีฬาชกมวย” ก็เลยเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่ “เสี่ยงตาย” กระทบสมอง

และไม่ได้ทำให้สุขภาพที่เกี่ยวข้องทางร่างกายแข็งแรงบริบูรณ์ราวกับกีฬาชนิดอื่นๆกลับมีผลตรงกันข้าม ซึ่งทั้งผองนี้ใช่ว่านักมวยอาชีพทุกคนไม่รู้เรื่องซะเมื่อไร เนื่องจากบทเรียนที่ผ่านๆมาจากนักมวยรุ่นพี่มีให้มองเห็นอยู่เป็นระยะ ถึงแม้ว่าทางการชกมวยจะมีฝีไม้ลายมือดี จนกระทั่งนำเกียรติศักดิ์เมืองไทย

ดังก้องไกลระดับโลกด้วย แม้กระนั้นโชคชะตาตอนหลังการห้อยนวม จะมองเห็นได้ว่า นักชกไทยที่เผชิญปัญหาสุขภาพ ถึงกับจะต้องเจ็บป่วย วางมือถาวรก็มีไม่น้อย อาทิ “พเยาว์ พูนธรัตน์” ที่ป่วยด้วยโรคแปลกชื่อ “เอแอลเอส” หรือโรค “เซลล์ประสาทเสื่อม” ซึ่งคาดว่ามีต้นเหตุที่เกิดจากการที่สมอง

รวมทั้งท่อนหัวกระทบตลอดระยะเวลา หรือ “ไอ้แสบ-แสนศักดิ์ เมืองจังหวัดสุรินทร์” สมัยก่อนแชมป์โลกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวตที่ประชุมมวยโลก ได้รับผลกระทบกระเทือน ดวงตาข้างซ้ายเริ่มมีปัญหาสำหรับเพื่อการแลเห็น จนถึงสุดท้ายก็มืดบอด ซึ่งก็มีปัจจัยคล้ายกับนักต่อยรายอื่นที่โชคร้าย เป็นมาจากเรื่องของ “สมอง”

รวมทั้งเสียชีวิตลง ตอนวันที่ 16 เดือนเมษายน 2552 ข่าวสารชี้แนะ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ หรือ “ไอ้แสบ” สมัยก่อนนักมวยแชมป์โลกคนประเทศไทย รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท (140 ปอนด์) ของที่ประชุมมวยโลก มีชื่อจริงว่า บุญส่ง มั่นศรี เป็นชาวตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในอดีตกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา

“แสนศักดิ์” เป็นนักมวยที่มีตอนแขนยาวกว่าปกติ แล้วก็มีหมัดซ้ายหนักโดยธรรมชาติ นับเป็นแชมป์โลกคนประเทศไทยผู้ที่ 5 แล้วก็เป็นนักมวยแชมป์โลกรุ่นใหญ่ที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีมา นอกจากนั้นแสนศักดิ์ ยังเป็นเจ้าของสถิติโลก ที่ชกมวยสากลเพียงแต่ 3 ครั้งก็ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกอีกด้วย

กว่าจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ก่อนที่จะ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ จะมาชกมวยสากลกระทั่งสร้างชื่อก้องไกลไปสุดยอด เค้าเคยเป็นนักต่อยไทย ในชื่อว่า “แสนแสบ เพชรเจริญ” หรือ “แสบทรวง เพชรเจริญ” จนถึงเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ลงหลักปักฐานในสังกัดค่าย “เมืองจังหวัดสุรินทร์” ของ “จอมตบ” สนอง รักวานิช

จนกระทั่งสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก รวมทั้งเคยปะทะความสามารถกับยอดมวยไทยร่วมยุคคนจำนวนไม่น้อย ได้แก่ ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์, วิชาญน้อย พรทวี, พุฒ ล้อเหล็ก, คงเดช ลูกบางปลาสร้อย, ขุนพล สาครพิทักษ์, วิสันต์ ไกรเกรียงยุค, ผุดผาดน้อย วรวุฒิ เป็นต้น นอกจากนั้นเค้ายังเคยเป็นแชมป์มวยไทยรุ่นซูเปอร์ไลท์เวท (140 ปอนด์) ของสนามมวยเวทีลุมพินี

ด้วยการเอาชนะน็อก สรศักดิ์ ส.ลูกบุคคโล หลานชายของสุข ปราสาทหินพิมาย เพียงแค่ยกแรก ก่อนหน้านี้ “แสนศักดิ์” เคยชกมวยสากลสมัครเล่นสำหรับการชิงชัยกีฬาประเทศไทยครั้งที่ 7 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยชนะน็อกรวดทุกคราว จนได้ครอบครองเหรียญทอง จนกระทั่งอีก 4 เดือนถัดมา

แสนศักดิ์ก็เลยสบโอกาสขึ้นสังเวียนที่ประเทศสเปนอีกที ตอนนี้ แสนศักดิ์เป็นฝ่ายชนะน็อกไปเพียงแต่ชูที่ 2 ได้กลับมาเป็นแชมป์โลกในยุคที่ 2 แล้วก็จากนั้นมา แสนศักดาได้คุ้มครองปกป้องตำแหน่งไว้ได้หลายต่อบ่อยครั้ง ไฟต์แห่งความทรงจำ ทำเอาคนไทย ขนลุกทั้งยังแผ่นดิน

แล้วก็สำหรับไฟต์ ที่ความจำที่ยังคงต้องใจแฟนมวยอยู่จนกระทั่งทุกๆวันนี้ เป็นต้นว่า ชนะน็อก มอนโร บรู๊คส์ นักมวยคนอเมริกัน ในยกที่ 15 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ชนะคะแนน ซาอูล แมมบี้ นักมวยคนประเทศอเมริกาอีกผู้ที่จังหวัดนครราชสีมา และก็ตอนที่ “แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์” ขณะชก โธมัส เฮิร์นส์ เมื่อต.ค. พุทธศักราช 2522 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

รวมทั้งเอาชนะมาได้ แต่ว่าก็จำต้องแลกเปลี่ยนด้วยความระบมอย่างแสนรุนแรง จากน้ำหนักหมัดของแมมบี้ ซึ่งสื่อมวลชนบางรายมั่นใจว่า การต่อยคราวนี้ ได้มีการระบุผลไว้ล่วงหน้า ในเวลาถัดมา “เทียมบุญ อินทรบุตร” มวยไทย

ซุปเปอร์สตาร์ โปรโมเตอร์ผู้จัดการชิงชัย กับ โลเป ซาเรียล โปรโมเตอร์ร่วมชาวประเทศฟิลิปปินส์ เชื่อว่า ภาวะดวงตาของแสนศักดิ์ ที่มีปัญหาก็เกิดขึ้นมาจากการชกไฟต์นี้

ซุปเปอร์สตาร์

การสำรวจพบว่ายังมีนักมวยรุ่นใหญ่ระดับแชม์ป อีกทั้งในไทยและก็ ต่างถิ่นพบเจอโชคชะตาเดียวกัน

ซุปเปอร์สตาร์ เสียแชมป์ แพ้กินขาด เนื่องจากว่าลักษณะของการป่วย ถึงตัวแสนอำนาจ จะทราบว่าเค้าเองมีลักษณะเจ็บไข้ รวมทั้งไม่ดีเหมือนปกติไปจากเดิม เพราะเหตุว่าได้รับผลพวงจากการชกมวยอย่างมากถ่วง แต่ว่านั้นมิได้แสดงว่าจะมีผลให้เค้าถอบกลับ ยอมเดินหน้าขึ้นสังเวียน จนกระทั่งจะต้องเสียแชมป์โลก

สำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 8 ของยุคที่ 2 กับ คิม ซาง ฮัน นักมวยชาวประเทศเกาหลีใต้ เมื่อท้ายปี พุทธศักราช 2521 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถิ่นของผู้ท้าแข่งเอง การต่อยคราวนี้ แพ้น็อกไปในยกที่ 13 เนื่องมาจากสภาพร่างกายของแสนศักดิ์ ไม่แข็งแกร่งเหมือนเก่า

แล้วก็สายตาก็เริ่มมีปัญหา แล้วแสนศักดิ์ ได้ไปต่อยนอกรอบที่ประเทศฟิลิปปินส์ จนถึงในที่สุดก็แพ้นักมวยเจ้าถิ่นอีก จนกระทั่ง 3 เดือนถัดมา แสนศักดิ์ บินไปต่อยที่สหรัฐฯกับ โธมัส เฮิร์นส์ ซึ่งเป็นดาวรุ่งเวลานี้ ซึ่งแสนศักดิ์ไม่บางทีอาจสู้อะไรเฮิร์นส์ได้เลย เป็นข้างแพ้น็อกไปในยกที่ 3

แสนศักดิ์ชกมวยคราวสุดท้ายในปี พุทธศักราช 2524 ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเป็นโปรโมเตอร์จัดแจงชิงชัยเอง โดยเป็นการชิงชนะเลิศภาคตะวันออกไกลแล้วก็แปซิฟิค กับนักมวยชาวประเทศเกาหลีใต้ แต่ว่าก็แพ้แต้มกินขาดอีก ก็เลยจำเป็นต้องรามือไปท้ายที่สุด อดีตอันเฟื่องฟู “ซ้ายสีชมพู” ซุปเปอร์สตาร์ระดับประเทศ

แสนศักดิ์เมืองสุรินทร์ มีชื่อที่แฟนมวยรู้จักว่า “ไอ้แสบ” รวมทั้งมีฉายาว่า “ซ้ายสีชมพู” ซึ่งเป็นการตั้งโดย เทียมบุญ อินทรบุตร โปรโมเตอร์ประจำของแสนศักดิ์ (เดิมมีฉายาว่า ซ้ายทะลายโลก) แสนศักดิ์ เป็นคนมีบุคลิกครื้นเครง มีสีสัน ตอนที่แสนศักดิ์เป็นแชมป์โลก

ถือว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์มีชื่อเสียงคนหนึ่งไม่ได้มีความแตกต่างกับผู้แสดงนำชายภาพยนตร์อย่างยิ่งจริงๆ อาทิเช่น ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปคุ้มครองปกป้องตำแหน่งที่แหน่งใด ผู้รายงานข่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังสือพิมพ์ต้องตามไปทำข่าวสารถึงที่โน่น เล่ากันว่าถึงกับขนาดจับเรือบินกลับจ.กรุงเทพฯ

ส่งต้นฉบับแทบจะไม่ทันอย่างยิ่งจริงๆ ประเด็นนี้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในกลุ่มผู้รายงานข่าวร่วมยุค แล้วก็ถึงขั้นที่ “เพลิน พรหมแดน” นักร้องเพลงลูกทุ่งมีชื่อเสียงเคยทำเพลงพูดหยอกเย้าเลียนเกี่ยวกับแสนศักดิ์ชื่อว่า “ศึกไอ้แสบ” รวมทั้งการที่เป็นคนตลกอย่างงี้ ทำให้แสนศักดิ์ ได้ภรรยาคนแรกในชีวิตเป็น “ปริม ประภาพร” ศิลปินสาวดาวยั่วมีชื่อเสียงในยุคนั้น

รวมทั้งมีลูกชายที่เกิดกับภรรยาคนนี้เป็น “เกรียงศักดิ์ มั่นศรี” ซึ่งแสนศักดิ์เป็นคนตั้งเอง ให้ตรงกับชื่อนายกรัฐมนตรีในยุคนั้น (พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์) และก็มีชื่อเล่นว่า “คิง” แขวนนวมโบกมือ ล่ำลาวงการมวย ป่วยตาบอด โรครุมเร้า ถูกเพื่อนฝูงหลอกเอาเงิน แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ไอ้แสบ ตกลงใจวางมือ

เพราะเหตุว่าสภาพร่างกายที่ไม่เข้มแข็งดังเดิม รวมทั้งมีปัญหาด้านสายตาอีก อันเพราะระบมจากการชกมวย จากซุปเปอร์สตาร์เป็นยาจก ไอ้แสบ มีชีวิตการดำรงชีวิตที่ลำบาก เพราะเหตุว่านับตั้งแต่เสียแชมป์โลกหนสุดท้ายไปแล้ว เงินทองที่เคยมีอยู่นับ 10 ล้านที่เคยเก็บหอมรอบริบจากการชกมวยก็ลดลง

ผู้จัดการที่ปลุกปั้นมาหมายถึงตอบสนอง รักวานิช ก็เสียชีวิต กรุ๊ปผู้ส่งเสริมและสนับนุนก็ทยอยๆจากไป หนำซ้ำยังโดนหลอกจากเพื่อนพ้องแล้วก็คนรู้จักกัน รวมทั้งคนภายในแวดวงมวยด้วย การต่อยคราวสุดท้ายของแสนศักดิ์ ซึ่งเป็นขึ้นชิงชนะเลิศในรุ่นเวลเตอร์เวท (147 ปอนด์) ของสมาพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลรวมทั้งแปซิฟิค

เจ้าตัวถึงกับขนาดลงทุนเป็นโปรโมเตอร์เอง แต่ว่าก็ขาดทุนอีก ทั้งยังเป็นข้างแพ้แต้มอีกด้วย และก็เคยสมัครรับเลือกตั้งเป็นพวกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นตรงต่อพรรคชาติไทย ที่เพชรบูรณ์ บ้านเกิด ก็ไม่ได้รับเลือก จนถึงสุดท้าย สายตาข้างขวาที่มีปัญหาของแสนอำนาจก็บอดสนิท

ซุปเปอร์สตาร์ ส่วนตาข้างซ้ายได้รับการผ่าตัดกระทั่งเห็นได้ จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเดือนละ 7,500 บาท รวมทั้งจากที่ประชุมมวยโลกอีกเดือนละ 9,000 บาท ตอนปลายชีวิตได้อาศัยอยู่กับนางสาวศศวรรณ ดาวัลย์ ภรรยาใหม่แล้วก็มีลูกสาวบุญธรรมเป็น นางสาวปานวาด มั่นศรี ฮุยมั่นใจ